QUAN ZHI GAO SHOU FANFICTION
อวี้เหวินโจว x หวงเส้าเทียน (อวี้หวง)
RATE : PG
ใกล้ . . .
อวี้เหวินโจวประคองร่างของที่ไม่ได้สติของหวงเส้าเทียนเข้ามาในห้องพักนักกีฬาอย่างยากลำบาก อีกฝ่ายไม่ได้ตัวเล็กกว่าเขามาก ยิ่งพออีกคนสะลึมสะลือแบบนี้ยิ่งเหนื่อยเข้าไปใหญ่ ช่วงสิ้นปีพวกรุ่นพี่นักกีฬาตัวจริงต่างซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และกับแกล้มมาเลี้ยงฉลองกันในค่ายฝึกซ้อมของสโมสร แน่นอนล่ะว่าพวกเขายังอายุไม่ถึง แต่สุดท้ายก็โดนจับกรอกปากอยู่ดี อวี้เหวินโจวไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ได้เป็นที่สนใจมากนัก เด็กหนุ่มเพียงแค่ดื่มน้ำอัดลม คอยชงเครื่องดื่มให้คนอื่น หลบอยู่เงียบๆ แต่คนที่เป็นจุดสนใจของทั้งหมดย่อมเป็นหวงเส้าเทียน
อยู่ที่ไหนก็เป็นจุดสนใจ เจิดจ้าเสียจนคนที่มักเลือกจะอยู่ในเงาแบบเขาไปอยู่ใกล้ๆ ด้วยไม่ไหว
แต่หมอนั่นก็คอยมาอยู่ใกล้เสียอยู่เรื่อย คอยให้กำลังใจแม้ว่าคนอื่นจะคอยเยาะเย้ยใส่เขาก็ตาม
“วิธีการเล่นแบบนายฉันไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แบบนี้ทำยังไงเหรอ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะ นายวางแผนไว้ล่วงหน้าหมดแล้ว บ้าไปแล้ว ! เรื่องซับซ้อนแบบนั้นฉันไม่เห็นจะเข้าใจเลย นี่ๆๆๆ อธิบายอีกรอบได้มั้ย?”
…จ้อไม่หยุด…
คำจำกัดความที่อวี้เหวินโจวมีให้หวงเส้าเทียนทันทีที่หมอนั่นเริ่มเข้ามาทำความรู้จักกับเขา เพื่อนร่วมค่ายฝึกซ้อมคนอื่น ถ้าไม่ได้เมินเฉยเขาไป ก็จะมีแต่พวกที่หัวเราะใส่เวลาที่เขาทำแบบทดสอบได้แค่ระดับคาบเส้นเท่านั้น แต่หวงเส้าเทียนที่จะเลือกให้กำลังใจกับเขา ไม่มีคำพูดบั่นทอนกันหรือถ้อยคำขยะใดๆ เลย แม้ว่าเขาจะเห็นว่าหมอนั่นกวนประสาทคู่ต่อสู้ยังไงบ้างก็เถอะ อีกฝ่ายไม่เคยเอามาใช้กับเขาเลย
“มันใกล้เกินไปแล้วรู้ตัวหรือเปล่า” อวี้เหวินโจวพูดเบาๆ ในขณะที่จับเส้าเทียนลงไปนอนบนเตียงดีๆ อีกฝ่ายกลับคว้าคอเขาไปอย่างกับคิดว่าเขาเป็นหมอนหน้าสิงโตบนเตียงอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อจับอีกฝ่ายนอนดีๆ ส่งหมอนสิงโตตลกๆ ให้นอนกอดแล้วก็ดูเหมือนหวงเส้าเทียนจะสงบลง อวี้เหวินโจวยิ้มจางๆ ให้ทั้งที่อีกคนกำลังหลับสนิท ไม่รู้เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์จางๆ ที่ซึมลงไปในเลือดหรือเปล่า หรือเป็นเพราะบรรยากาศยามกลางคืนที่เงียบสงัด รวมทั้งอากาศเย็นจากเครื่องปรับอากาศ
อวี้เหวินโจวได้แต่หาข้ออ้างให้กับตัวเองวินาทีที่เขาโน้มตัวลงไปจูบคนที่นอนหลับสนิทบนฟูกเบาๆ และผละออกมาอย่างเชื่องช้า
เอี๊ยด …..
เสียงปิดประตูเบาๆ เป็นสัญญาณว่าคนฉวยโอกาสบางคนได้ออกจากห้องนี้ไปแล้ว หวงเส้าเทียนลุกพรวดขึ้นมาจากเตียงนอนตัวเอง มือเรียวยกขึ้นมาขยุ้มอกเสื้อฝั่งซ้าย ใบหน้าขาวใสที่ตอนนี้แม้ปิดไฟแต่ก็รู้ตัวอยู่หรอกว่ามันแดงขนาดไหนเพราะความร้อนที่แทบจะเผาใบหน้าอยู่แล้ว
ฉวยโอกาสชาวบ้านในเกมมาตั้งเยอะ นี่เป็นครั้งแรกเนี่ยแหละที่ถูกฉวยโอกาสกับเขาบ้าง
แต่มันก็เป็นคนละเรื่องกันอยู่ดีนั่นแหละ !
“บ้า บ้า บ้า บ้า ไอ้บ้าเอ้ย อวี้เหวินโจว… นาย … นายมัน…..”
เส้าเทียนยกมือมาถูบนแก้มทั้งสองข้างแรงๆ เพื่อหวังว่าความร้อนนั้นจะจางหายไปบ้าง ที่เมาจนไม่ได้สติน่ะมันเรื่องจริง แต่แอลกอฮอล์เหมือนถูกล้างออกไปจากร่างกายหมดสิ้นแล้ว เพราะจูบของหมอนั่นน่ะแหละ แถมเขายังไม่รู้สึกง่วงซักนิดเดียว ทั้งที่เมื่อกี๊เดินหลับมาแท้ๆ ตอนที่อวี้เหวินโจวประคองเขากลับห้องมา ได้เรียนรู้ว่าวันนี้แหละว่า จูบ…สามารถทำให้สร่างเมาได้
แล้วคืนนี้เขาจะหลับได้ยังไง ตาสว่างซะขนาดนี้ พรุ่งนี้หมอนั่นต้องมารับผิดชอบเขา… รับผิดชอบหัวใจที่มันเต้นแรงจนเจ็บไปหมดนี่ซะด้วย
*************************************
หวงเส้าเทียนนอนไม่หลับ เขาได้หลับไปนิดเดียวตอนใกล้รุ่งสาง ซ้ำยังตื่นสายขนาดที่ว่าอีกสิบนาทีก็ได้เวลาฝึกซ้อมรอบเช้าแล้ว เลิกหวังถึงอาหารเช้าได้เลยแค่ไปให้ทันก็พอแล้ว เด็กหนุ่มพาตัวเองเข้าห้องฝึกซ้อมไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องประจำ บนโต๊ะคอมมีนมหนึ่งกล่องและแซนด์วิชตั้งอยู่พร้อมกับโน้ตใบเล็กที่แนบไว้
ข้าวเช้า 🙂
ไม่มีชื่อเขียนมา มีเพียงแค่รูปปลากำลังยิ้มอยู่ข้างใต้เท่านั้นเอง จู่ๆ เด็กหนุ่มก็รู้สึกใจเต้นแรงอีกครั้ง เขาคิดว่าเขารู้นะว่าใครเป็นคนเอามาให้ ใบหน้าใสหันซ้ายหันขวาเพื่อมองหาคนคุ้นเคย แต่เหมือนว่าโซนตรงนี้จะมีแต่คนที่ทำแบบทดสอบครั้งล่าสุดได้คะแนนใกล้เคียงกับเขาเท่านั้น อีกฝ่ายไม่ได้อยู่ตรงนี้ แค่คิดเส้าเทียนก็รู้สึกเหงาแล้ว เด็กหนุ่มปลดปล่อยอารมณ์ไปกับการฝึกซ้อมช่วงเช้าแบบพูดนับคำได้ ผิดวิสัยจอมจ้อน้องใหม่แห่งหลานอวี่ คนที่จับสังเกตและเดินมาทักย่อมเป็นพี่เลี้ยงกิตติมศักดิ์อย่างกัปตันเว่ยชิน
“เฮ้ยศิษย์น้อง วันนี้เป็นอะไรใยเจ้าไม่น่ารำคาญเหมือนเคย”
“กัปตัน! ก็— ก็เมาค้างไง !!! เมื่อวานตาลุงที่จับเอาเหล้ากรอกใส่ปากผมกันเล่า!? ผมน่ะเป็นเยาวชนที่ดีอยู่ในทำนองคลองธรรมมาตลอดเลยนะ อายุยังไม่ถึงสิบแปด กัปตันกล้าดียังไงเอาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มากรอกใส่ปากผม แบบนี้มันผิดกฎหมายนะ—“ หวงเส้าเทียนหันไปเจอตัวการเมื่อคืน เจ้าลุงนี่แหละตัวการสำคัญที่ทำให้เขาโดนปล้นจูบไป
“พอ พอก่อนไอ้ลิงนี่ ชวนคุยประโยคเดียวร่ายมาเป็นเรียงความเลยนะเอ็ง”
“กัปตัน… กัปตันเห็นอวี้เหวินโจวมั้ย?” ตอนนี้เป็นช่วงพักสิบห้านาที หวงเส้าเทียนกวาดสายตามองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นเพื่อนร่วมรุ่นที่เขาสนิทที่สุด แน่นอนว่าสนิทที่สุดเป็นเรื่องที่เขาคิดเอาเอง อีกฝ่ายจะสนิทด้วยหรือเปล่าเขาไม่แน่ใจหรอก
“ใครคืออวี้เหวินโจววะ?” กัปตันเว่ยชินขมวดคิ้วกับคำถามของศิษย์เอก
“ช่างเถอะ ผมรู้อยู่แล้วถามกัปตันไปก็ไร้ประโยชน์ เสียเวลาผมจริงๆเลย เดี๋ยวมานะกัปตัน”
“เดี๋ยวๆๆ ไอ้ลิงนี่ มานี่ก่อน วันนี้ดูแปลกไปจริงๆ นะเอ็ง”
“กัปตันปล่อยผม! ผมไม่ว่างจะมาคุยเรื่องไร้สาระกับกัปตันหรอกนะ ปล่อยก่อนสิ ผมหาอวี้เหวินโจวก่อนแล้วเราค่อยมาคุยกันได้มั้ย กัปตันโว้ยยย” หวงเส้าเทียนโวยวายเสียงดังที่โดนเว่ยชินจับมานั่งอยู่บนเก้าอี้ประจำหน้าจอเหมือนเดิม ทุกคนเริ่มหันหน้ามามอง
“มาประลองกันซักตั้งสิ แล้วจะปล่อยไป”
การประลองดำเนินไปอย่างปกติโดยที่ทุกคนสละเวลาเบรกของตัวเองมาดูการประลองของดาวเด่นดวงใหม่แห่งหลานอวี่กับกัปตันเจ้าของตัวละครไพ่ราชาอย่างซอกเกอร์ซาร์
หวงเส้าเทียนแพ้ —- ซ้ำยังแพ้ราบคาบ กัปตันเว่ยชินหัวเราะนิดหน่อยอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเดินตั้งใจว่าจะมาลูบหัวไอ้หนูจอมอวดดีที่ตอนนี้สีหน้าหม่นลงอย่างน่าสงสาร ดวงตาคู่ใสดูเหมือนจะมีน้ำตาคลอหน่วยอยู่หน่อยๆ
ก็แบบนี้แหละ คนเรามันต้องกำราบกันบ้างก่อนที่จะหยิ่งยโสไปกว่านี้
“รุ่นพี่พอจะมีเวลาว่างต่ออีกหน่อยมั้ยครับ?”
เว่ยชินถูกทักท้วงด้วยเสียงที่เขาไม่คุ้นเลยซักนิดเดียว ซ้ำยังออกมาจากปากของเด็กหนุ่มที่มายืนข้างๆ ศิษย์เอกของเขา เว่ยชินจำหน้าเจ้าหนูนี่ไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนหวงเส้าเทียนจะอ้าปากหวอไปแล้ว เส้าเทียนคว้าแขนของเด็กหนุ่มปริศนาคนนั้นไว้ซ้ำยังพูดปรามว่าอย่าเลย
เว่ยชินรู้สึกว่าคนรอบข้างเริ่มส่งเสียงหัวเราะคิกคัก เหมือนกับเจ้าหนูนั่นเป็นตัวตลก เพราะอะไรกันล่ะ
“กัปตันอย่าไปสนใจคำขอของเจ้านั่นเลย หมอนั่นความเร็วมือช้าเสียจนอยู่ในระดับพิการด้วยซ้ำ เสียเวลาเปล่าๆ” แต่เว่ยชินกลับรู้สึกไปในอีกแนวทางหนึ่ง บางทีเจ้าหนูนี่อาจจะกำลังต้องการคำชี้แนะของเขาก็เป็นได้ เผื่อที่อาจจะได้รู้จุดยืนของตัวเองว่าต้องอยู่ตรงไหน
“เอ้ามาสิ นั่งที่เส้าเทียนก่อนเลยไอ้หนู ว่าแต่ชื่ออะไรน่ะ”
“อวี้เหวินโจวครับ ขอคำชี้แนะจากรุ่นพี่ด้วยครับ”
**************************************
หลายคนพูดเสมอว่าอวี้เหวินโจวเป็นคนใจเย็น เจ้าตัวเองก็รู้สึกเช่นนั้นแหละ เขายิ้มรับให้กับทุกคำดูถูกเสมอ ตอบกลับคำเหยียดหยามไปด้วยความเยือกเย็นและสงบนิ่งดุจธารน้ำแข็ง และในตอนนี้ก็เช่นกันที่เขาได้รับชัยชนะถึงสามครั้งติด เขาไม่ยโสกับชัยชนะ ไม่หัวเราะผู้ปราชัย
อันที่จริงอวี้เหวินโจวรู้สึกว่าตัวเองค่อนข้างจะหัวร้อนไปเสียหน่อยกับเกมฝึกเมื่อตอนกลางวัน ตอนที่หวงเส้าเทียนพ่ายแพ้ให้กับกัปตันทีม แท้จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักที่เด็กฝึกจะแพ้ให้กับนักกีฬาตัวจริง ยิ่งกับคนที่เป็นถึงกัปตันทีมของสโมสรแล้วนั้นยิ่งไม่แปลก
แต่เขากลับไม่พอใจ ไม่พอใจเอามากๆ ที่ใบหน้าที่สดใสนั้นหม่นหมองลงเพียงเพราะถูกใครทำให้เป็นแบบนั้น ความรู้สึกไม่ยอมถ้าจะปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น อวี้เหวินโจวผลุนผลันขอกัปตันทีมท้าแข่งไปทันที
คนที่ถูกลืมเสมอในค่ายฝึกแห่งนี้กลับได้รับความสนใจจากคนที่ดาวเด่นอย่างหมอนั่น เขาเองก็อยากจะเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ ในซักวันเหมือนกัน
“นายสุดยอดไปเลยรู้มั้ย” เสียงใสที่ดังขึ้นข้างหลัง ทำให้อวี้เหวินโจวหันกลับไปมองช้าๆ เส้าเทียนเดินมายืนอยู่ข้างๆ เขาที่กำลังเหม่อมองท้องฟ้าในยามกลางคืนอยู่
“ไม่ใช่แค่ฉันคนเดียวแล้วต่อไปนี้ที่จะรู้สึกว่านายสุดยอด ต่อจากนี้ทุกคนในค่าย ทุกคนในสโมสรจะต้องเหมือนกัน พวกเขาจะต้องหยุดเยาะเย้ยนาย หรือถ้านายยังโดนแบบนั้นอีกนายต้องบอกฉันนะ รับรองได้เลยว่าฉันต้องเอาคืนให้นายแน่—“ หวงเส้าเทียนที่กำลังเริ่มจ้อไม่หยุดต้องหยุดพูดเพียงเพราะมีฝ่ามืออุ่นๆ ของคนข้างๆ ที่วางลงมาบนหัวและก็ลูบผมของเขาเบาๆ อันที่จริงเขาไม่ได้ชอบนักหรอกที่ถูกทำเหมือนเด็กกว่าแบบนี้
แต่ก็อดยอมรับไม่ได้ว่ามันรู้สึกดีชะมัด …
“เมื่อคืนนี้…ขอบใจนะที่มาส่ง”
“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก”
“และก็….. ฉันตื่นอยู่นะ” จังหวะการลูบหัวของอวี้เหวินโจวชะงักไป ก่อนที่อีกฝ่ายจะชักมือกลับ หวงเส้าเทียนก็คว้าฝ่ามือนั้นไว้
เขาอาจจะหัวไวกับเรื่องของเกมออนไลน์ก็จริง อาจจะชอบฉวยโอกาสแย่งมอนสเตอร์เขาบ้างบางครั้ง แต่ในเรื่องนี้เขาไม่มีประสบการณ์เลยซักนิดเดียว เขาไม่รู้ว่าควรต้องพูดอะไรหรอกไป ไม่รู้กระทั่งความรู้สึกข้างในอกที่มันเต้นแรงจนหนวกหูว่ามันควรจะเรียกว่าอะไร
“ฉันชอบนะ” เด็กหนุ่มโพล่งมันออกไปโต้งๆ ทั้งที่หน้าแดงก่ำ อวี้เหวินโจวไม่แน่ใจว่าควรรจะดีใจหรือเปล่า แต่ตอนนี้เขาตกใจและก็ตลกอีกฝ่ายเสียมากกว่า
“ฉัน.. ฉันชอบจูบนั้นของนาย” หวงเส้าเทียนก้มหน้างุด ไอ้ที่เคยโดนคนอื่นเขาด่าว่าหน้าด้านจนเจ้าตัวนับเป็นคำชมไปนั้นเวลานี้กลับไม่สามารถดึงมันออกมาใช้ได้เลย
“แต่ฉันไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงกับความรู้สึกนี้ ฉันรู้สึกโง่เง่ามากๆ เลยล่ะ ดังนั้นถ้านายรู้ —“ เสียงของหวงเส้าเทียนถูกปิดด้วยฝ่ามืออุ่นของอวี้เหวินโจว คนตรงหน้ายิ้มละไมให้เขา ความตระหนกต่างๆ ที่มีอยู่ก็เหมือนค่อยๆ อันตรธานไป
“ฉันเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ที่เหมือนกันอย่างนึงก็คงจะเป็นเพราะว่าเราชอบจูบนั้นเหมือนกันล่ะมั้ง” ประโยคยาวๆ ของคนพูดน้อยทำเอาหวงเส้าเทียนรู้สึกร้อนวูบวาบบนแก้มอีกครั้ง
“ดังนั้น — เรามาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันดีมั้ย?”
ตำนานแห่งหลานอวี่คนที่เป็นดั่งฐานศิลาและคมดาบเริ่มต้น ณ จุดนี้ที่ทั้งสองจะเรียนรู้ไปพร้อมกันตลอดไป
FIN
คิดว่าอยากเขียนตั้งแต่ตอนอ่านเล่มแปดจบแล้วค่ะ แต่ไม่มีเวลาด้วยอะไรด้วย วันนี้ว่างทั้งวันก็เลยลองดู ; ;
ไม่ได้เขียนฟิคนานแล้ว ความเร็วระดับพี่อวี้ คุณภาพระดับเม่ยกวง ซอรี่นะคะ 5555